สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวจีโซน วันนี้แอดมินมีเรื่องมาเล่าอีกเช่นเคยนะคะ คราวนี้เป็นเรื่องของเทศกาล ยาบุซาเมะ หรือการยิงธนูบนหลังม้าในประเทศญี่ปุ่น ซึ้งในยอดนักสืบจิ๋วโคนันก็มีตอนที่ว่านี้เหมือนกันคือ โคนันปี 12 ตอนที่ 564-566 ชื่อตอนว่า ฟุรินคะซัน นักรบชุดเกราะในเขาวงกต เป็นคดีที่เกิดขึ้นในวันงานเทศกาลรวม ทั้งโคนัน เฮย์จิ โมริ ต่างร่วมกันไขปริศนากับตำรวจนางาโนะ อย่างสารวัตร ยามาโตะคันสึเกะ และผู้หมวด อุเอฮาระยูอิ
ยาบุซาเมะชินจิ
โดยเทศกาล ยาบุซาเมะ ได้จัดขึ้นในวันที่ 3 พฤษภาของทุกปี สำหรับ ยาบุซาเมะ เเล้วเป็นทั้งประเพณี วัฒนธรรม เเละพิธีกรรม ที่เเสดงออกถึงจิตวิญญาณของเหล่านักรบชนชั้นซามูไรที่มีมาเนิ่นนานเเล้ว เเละในปัจจุบันนั้นก็ได้กลายสภาพมาเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะกระทำกันในพื้นที่ของศาลเจ้าหรือวัดในศาสนาชินโต ซึ่งเป็นศาสนาดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น
นอกจากนี้เเล้วด้วยมนต์เสน่ห์ของพิธีกรรมนี้ ทำให้มีการจัดเทศกาลหรือพิธีกรรม ยาบุซาเมะ ในหลายๆเเห่งที่ไม่ใช่ทั้งวัดเเละศาลเจ้า เพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาชมความน่าตื่นตาตื่นใจของพิธีกรรมโบราณพิธีนี้ เเละกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยส่งเสริมในเรื่องของการท่องเที่ยวให้กับญี่ปุ่นในยุคปัจจุบัน
จุดกำเนิด
จุดกำเนิดของ ยาบุซาเมะ นั้นคงต้องย้อนกลับไปถึงญี่ปุ่นในสมัยเฮอัน ราวๆ ศตวรรษที่ 7 เลยทีเดียว โดยมันเริ่มต้นจากการเป็นกีฬาของเหล่านักรบชนชั้นสูงของญี่ปุ่น เป็นการผสมการขี่ม้าเเละการยิงธนุเข้ามาไว้ด้วยกัน นับว่าเป็นการฝึกซ้อมสำหรับการต่อสู้ในระยะไกลไปในตัว
ปกติระยะที่พวกเขาจะยิงในสนามรบส่วนใหญ่เเล้วจะอยู่ที่ระยะ 100-300 เมตร ซึ่งเเน่นอนว่ามันเป็นการยิงในขณะที่กำลังควบม้าด้วยความเร็วไปด้วย เเละเป้าที่จะยิงนั้นมีการเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน ซึ่งในการฝึกซ้อมช่วงเเรกๆ ของ ยาบุซาเมะ นั้นจะเป็นการฝึกซ้อมยิงกับเป้าที่มีระยะเเละความสูงที่เเตกต่างกันเป็นจำนวนมาก เเละวิธีการในการยิงเเละควบม้าก็ไม่ได้มีพิธีรีตองใดๆ ทั้งสิ้น โดยเป็นการเสมือนว่ากำลังทำการรบจริง แต่ในปัจจุบันนั้น ยาบุซาเมะ เเบบนี้เเทบจะไม่มีเหลือให้เห็นเเล้ว ซึ่งเรียกกันว่าเป็น ยาบุซาเมะ สายทาเคะดะ แต่ยังมีการจัดเทศกาลเป็นประจำทุกปีอยู่นะครับ เเต่เป็นงานลักษณะของการเเข่งขันยิงธนูบนหลังม้ามากกว่าจะเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ใดๆ
อุปกรณ์และกติกา
สำหรับผู้ที่จะเข้าร่วมในเทศกาล ยาบุซาเมะ ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเข้าร่วมได้ โดยปัจจุบันนั้นกฎหรือธรรมเนียมต่างๆ อาจจะเริ่มผ่อนปรนมากขึ้นเเล้ว เเต่ในอดีตนั้นผู้ที่จะเข้าร่วมพิธีกรรม ยาบุซาเมะ จะต้องสืบเชื้อสายมาจากชนชั้นซามูไรเท่านั้น เบื้องต้นบุคคลที่จะเข้าร่วมนั้นจะต้องมีคุณสมบัติในการบังคับม้าเข้าขั้นดีเลยทีเดียว เเละสามารถยิงธนูเเบบโบราณของญี่ปุ่นได้อีกด้วย โดยธนูที่ว่าได้เป็นคันศรที่โค้งเเละมีขนาดใหญ่พอสมควร
ตัวธนูทำจากไม้ เเละไม่มีเครื่องช่วยในการเล็งเเต่อย่างใด ทุกคนจะมีโอกาสในการยิงเพียงเเค่ 3 ครั้งเท่านั้น เพราะเส้นทางในการควบม้ามีระยะเพียงเเค่ 150 เมตร โดยม้าที่วิ่งนั้นมีความเร็วถึง 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
กลับมามองที่เครื่องเเต่งกายที่พวกเขาสวมใส่นั้นจะเป็นชุดในพิธีของเเต่ละตระกูลในอดีต ซึ่งมีความสวยงามด้วยชุดผ้าไหมพราว ที่มีลวดลายและสีสันสวยงามเเละจะมีตราประจำตระกูลติดอยู่อีกด้วย ส่วนกางเกงหรือเครื่องป้องกันส่วนล่างนั้นจะทำจากหนังกวางดาว เเละไม่ได้ใส่เสื้อเกราะเเต่อย่างใด
ในปัจจุบันนั้นมีการจัดเทศกาล ยาบุซาเมะ กันทั่วญี่ปุ่น เเต่ที่ได้รับความสนใจเเละเป็นที่นิยมกันเป็นอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวนั้นเห็นจะเป็น ยาบุซาเมะ ที่จัดขึ้น ณ ศาลเจ้าทซึรุหงะโอกะ ฮะจิมังงู ในเมืองคามาคุระ ซึ่งเป็นหนึ่งในอดีตเมืองหลวงเก่าเเก่ของญี่ปุ่น เเละเป็นหนึ่งในสถานที่กำเนิดเทศกาลนี้
เทศกาลนี้สร้างขึ้นบนความเชื่อที่ว่าเป็นการสร้างความรื่นเริงให้กับเทพเจ้าที่ปกปักรักษาเมืองคามาคุระให้เจริญรุ่งเรือง และจะถูกจัดขึ้นในช่วงของกลางเดือนกันยายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี ทำให้บรรยากาศนั้นมีเเต่ความสวยงามเเละเป็นมนต์เสน่ห์ที่ตราตรึงใจเป็นอย่างยิ่ง
พิธีการและความเชื่อ
พิธีการนั้นจะเริ่มต้นจากการการขอพรจากฟ้า ดิน และเทพเจ้า ตามมาด้วยการปลุกเสกลูกธนูที่จะนำไปมอบให้กับบุคคลที่เข้าร่วมพิธีกรรม พอเข้าสู่ช่วงของพิธีกรรม นักรบจะควบม้าด้วยความเร็วเข้ามาที่เเนวยิงธนู เเล้วก็จะใช้มือทั้งสองข้างในการจับคันศรเเละลูกธนู ซึ่งช่วงเวลานี้ทักษะในการทรงตัวบนหลังม้าต้องดีเยี่ยมจริงๆ เเล้วปล่อยลูกศรเข้าเป้าไป ก่อนที่จะต้องรีบขึ้นสายธนูเเละลูกศรใหม่อีกครั้งเพื่อปล่อยไปยังเป้าต่อไป ซึ่งระยะเวลาทั้งหมดนั้นสั้นเเละเร็วเป็นอย่างมาก โดยว่ากันว่าผู้ที่จะประสบความสำเร็จในพิธีกรรมยาบุซาเมะ จะต้องเป็นนักรบที่มีการควบคุมร่างกายและจิตใจตนเองได้เป็นอย่างดี จึงจะสามารถปล่อยลูกธนูให้เข้าเป้าได้ทั้งหมด พร้อมกันนี้วิธีการในการยิงธนูก็มีเเบบเเผนเเละวิธีปฏิบัติที่เป็นขั้นเป็นตอน เเละต้องทำตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะต่างจาก ยาบุซาเมะ สายทาเคะดะ
สำหรับผู้คนทั่วไปที่ไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลซามูไร เเละต้องการเข้าร่วมพิธีกรรม ยาบุซาเมะ นั้นก็สามารถทำได้เเล้วในปัจจุบัน เพียงเเต่พวกเขาต้องสละเวลาเป็นเวลานานกว่า 1 ปี ในการมาฝึกซ้อมตามโรงเรียนสอนขี่ม้ายิงธนู
มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่สนใจเเละอยากจะมาชมความน่าตื่นตาตื่นใจของ ยาบุซาเมะ ซึ่งนอกจากที่เมืองคามาคุระ เเล้วก็ยังมีอีกหลายเมืองที่จัดเทศกาลนี้ขึ้นมา สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวโตเกียวอยู่เเล้ว ก็สามารถมาชมเทศกาล ยาบุซาเมะ ได้เหมือนกันทั้ง อาซากุสะ ยาบุซาเมะ ซึ่งจะจัดขึ้นที่สวนสาธารณะซุมิดะ ริมเเม่น้ำซุมิดะ ไม่ไกลจากศาลเจ้าอาซากุสะ โดยจะจัดในช่วงเดือนเมษายน แต่จะมีความเเตกต่างในรายละเอียดตรงที่จะเป็นการฝึกฝนการยิงธนูเเบบโบราณ โดยเป้านั้นจะเป็นรูปกวางที่ทำจากหญ้าและจะมีขบวนเเห่อีกด้วย
ส่วนในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนนั้นจะมีเทศกาลยาบุซาเมะ ซึ่งจัดขึ้นที่ศาลเจ้าเมจิ ใจกลางกรุงโตเกียว ก็ถือว่าเป็นอีกเทศกาลยาบุซาเมะ ที่มีความยิ่งใหญ่เป็นอย่างยิ่งในเขตคันโต ของญี่ปุ่น
สิ่งที่น่าสนใจ
สิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งอีกอย่างหนึ่งของ ยาบุซาเมะ นั้นก็คือเรื่องของคันธนู ถึงแม้ปัจจุบันวันเวลาจะเปลี่ยนไปเเล้วก็ตาม เเต่คันธนูเหล่านี้ก็ไม่ได้รับการปรับเเต่งให้เหมาะกับการยิงเป้าเดี่ยวในปัจจุบันเเต่อย่างใด มันคงยังเป็นคันธนูเเบบเดิมที่เหล่านักรบเคยใช้ในสงคราม ด้วยเหตุผลที่ว่ากีฬาของเหล่านักรบที่ได้กลายมาเป็นพิธีการกึ่งพิธีกรรมไปเเล้ว มันเป็นเรื่องของจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่นที่สืบทอดต่อกันมาเป็นพันปีเเล้วนั่นเอง โดยเรทราคาของคันธนูเเบบนี้ก็อยู่ในระดับที่สูงที่เดียว เเละมีจำหน่ายสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจการยิงธนูเเบบโบราณอีกด้วย
เทศกาลอย่าง ยาบุซาเมะ นั้นเเม้ว่าจะได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี เเต่ก็มีทั้งสิ่งที่รักษาเอาไว้ได้ เเละบางสิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย เเต่สำหรับเทศกาลนี้เเล้วนับว่าเป็นอีกเทศกาลที่ทำให้เห็นถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมที่น่ายกย่องของญี่ปุ่น